ฟุกุโอกะ ตั้งอยู่ทางตอนบนของเกาะคิวชูของประเทศญี่ปุ่น โดยสร้างเมืองขึ้นตามแนวชายฝั่งของอ่าวฮากาตะ (Hakata) เมืองฟุกุโอกะเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

ฟุกุโอกะ (Fukuoka) หรือภาษาญี่ปุ่น 福岡市 อ่านว่าฟุกุโอกะ-ชิ เป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) โดยตั้งอยู่ทางตอนบนของเกาะคิวชูของประเทศญี่ปุ่น โดยสร้างเมืองขึ้นตามแนวชายฝั่งของอ่าวฮากาตะ (Hakata) เป็นศูนย์กลางทางการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยพื้นที่เป็นจุดที่ใกล้ที่สุดในบรรดาเกาะหลักของญี่ปุ่นที่สามารถติดต่อทางการค้ากับประเทศแถบเอเชีย ทำให้ฟุกุโอกะได้รับการผสมผสานทางวัฒนธรรมเกิดเป็นความโดดเด่นเฉพาะ เนื่องด้วยระยะห่างจากศูนย์กลางทางสังคมและการเมืองของเกียวโต และยุคต่อมาคือเอโดะ หรือโตเกียว ฟุกุโอกะจึงได้รับวัฒนธรรมท้องถิ่นและภาษาถิ่นที่โดดเด่นซึ่งยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

สภาพอากาศของฟุกุโอกะ ช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศิจิกายน ถึง มีนาคม หน้าหนาวอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3-10 °C (บางปีอาจมีหิมะตกบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แต่อาจจะไม่ตกหนักเหมือนทางตอนบนของประเทศ) และ ช่วงฤดูร้อน เดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม หน้าร้อนอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 25 -32 °C

สถานที่ห้ามพลาดเมื่อได้มา เที่ยวฟุกุโอกะ

1. ปราสาทฟุกุโอกะ (Fukuoka Castle)

ปราสาทฟุกุโอกะ หรือที่รู้จักในในนามปราสาทไมซูรุ (Maizuru Castle) และปราสาทเซกิ (Seki Castle) แม้ว่าโครงสร้างในปัจจุบันจะเป็นส่วนเล็กๆ ของประสาทเดิมที่ยิ่งใหญ่มาก เชื่อว่าครอบคลุมพื้นที่กว่า 47,000 ตารางเมตร เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เหมาะแก่การมาเที่ยว

ไฮไลท์ของการมาเที่ยวปราสาทฟุกุโอกะ คือการชมประตูปราสาท ป้อมปราการ และหอคอยเก่าแก่จำนวนมากที่อยู่ภายในบริเวณปราสาทแห่งนี้ ซากปรักหักพังของบ้านพักนักการทูตในอดีต ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมคือต้นเดือนเมษายนในช่วงเทศกาลซากุระ Fukuoka Castle Sakura Festival เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศกับการเยี่ยมชมดอกซากุระกว่าพันต้น และช่วงพลบค่ำยังสามารถชมการประดับไฟที่งดงามตระการตา

พิกัดแผนที่ได้ปราสาทฟุกุโอกะ

2. ศาลเจ้าซูมิโยชิ (Sumiyoshi-jinja Shrine)

ศาลเจ้าซูมิโยชิ หนึ่งในสถานที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะคิวชู เป็นศาลเจ้าอันเป็นที่เคารพนับถือของนักเดินเรือตั้งแต่อดีต ที่มาขอพรก่อนแล่นเรืออกทะเล ศาลเจ้าซูมิโยชิอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Naka และสวนสาธารณะซูมิโยชิ ในช่วงเดือนตุลาคมจะมีการจัดเทศกาลการแสดงละครแบบดั้งเดิม เป็นอีกหนึ่งสถานี่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าไปเยี่ยมชม

3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคิวชู (Kyūshū National Museum)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคิวชู (Kyūshū National Museum) ไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลการออกแบบสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งใหม่แห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดมานานกว่า 100 ปี สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บสะสมงานศิลปะสาธารณะขนาดใหญ่และโบราณวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของเกาะคิวชู

4. ศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida-jinja Shrine)

ศาลเจ้าคูชิดะ Kushida-jinja Shrine ศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งขอญี่ปุ่น และเก่าแก่ที่สุดในฟุกุโอกะ โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 757 ความสวยงามของงานแกะสลักนักษัตรจีนและต้นแปะก๊วยที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี

ศาลเจ้าคูชิดะ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพราะเป็นสถานที่จัดเทศกาล Hakata Gion Yamakasa ทุกเดือนกรกฎาคม เทศกาลสวดมนต์ขอพรเพื่อสุขภาพที่ดีและความมั่นคง

5. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านฮากาตะมาชิยะ Hakata Machiya Folk Museum

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านฮากาตะมาชิยะตั้งอยู่ในเขตฮากาตะในฟุกุโอกะซึ่งตั้งอยู่ในอาคารที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่หลังของเมืองจากยุคเมจิในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 นอกจากการจัดแสดงงานฝีมือท้องถิ่นมากมายแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งนี้ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งอีกด้วย

6. ศาลเจ้าดาไซฟุ Dazaifu Tenman-gū

สร้างเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งการศึกษา เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของฟุกุโอกะ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,000 เอเคอร์ เป็นที่นิยมของหล่านักเรียนในการมาขอพรให้สอบผ่าน

โครงสร้างที่สำคัญที่สุดคือ Honden หรือศาลเจ้าหลัก โครงสร้างนี้มีต้นกำเนิดมาจากปี ค.ศ. 905 และถูกแทนที่หลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ โดยโครงสร้างปัจจุบันมีอายุตั้งแต่ปี 1591 นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านศาลเจ้าขนาดเล็กจำนวนมากพร้อมกับคลังสมบัติที่เก็บรักษาพระธาตุที่สำคัญที่สุดไว้มากมาย

7. สวนโอโฮริ (Ōhori Park)

ฟุกุโอกะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือสวนสาธารณะโอโฮริ (Ōhori Park) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโดยการเดินไปเพียงไม่กี่นาที ชื่อโอโฮริได้มาจากทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคูเมืองของปราสาทฟุกุโอกะ

ไฮไลท์คือเส้นทางที่ล้อมรอบทะเลสาบ สวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่สวยงาม ดอกซากุระที่สวยงามในแต่ละฤดูใบไม้ผลิ พร้อมด้วยสะพานและทางเดินมากมายที่ทอดตัวไปยังเกาะกลางทะเลสาบ

8. พระนอน วัดนันโซอิน (Nanzoin)

วัดนันโซอิน หนึ่งในศาลเจ้าพุทธ (และสำคัญที่สุด) ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดของจังหวัด ดึงดูดผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อปี รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ของพระพุทธไสยาสน์ (เนฮันโซหรือชากา เนฮาน) สร้างขึ้นในปี 2538 และว่ากันว่าเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ควรค่าแก่การเยี่ยมชมคือพระพุทธรูปไม้ที่มีชื่อเสียงที่ Tōchō-ji ซึ่งเป็นวัด Shingon ที่เก่าแก่ที่สุดในคิวชู (ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 806)

9. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มารีนเวิลด์ อุมิโนะนากามิชิ Marine World Uminonakamichi

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ มารีนเวิลด์ อุมิโนะนากามิชิ Marine World Uminonakamichi ตั้งอยู่ในอาคารรูปเปลือกหอยขนาดใหญ่ใกล้ริมน้ำของอ่าวฮากาตะ เป็นสถานที่สำหรับผู็สนใจการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ของคิวชู มีตู้ปลาประมาณ 70 ตู้ ซึ่งใหญ่ที่สุดซึ่งมีสัตว์มากกว่า 20,000 ตัว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีปลาน้ำอุ่นในท้องถิ่นจำนวนมาก รวมทั้งปลาฉลามมากกว่า 100 ตัวที่แหวกว่ายอย่างอิสระในถังเก็บน้ำแบบพาโนรามาขนาดใหญ่

10. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ฟุกุโอกะ Fukuoka Art Museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟุกุโอกะ มีคอลเลกชั่นภาพวาดและงานฝีมือของญี่ปุ่นจำนวนมาก พร้อมด้วยศิลปะและงานฝีมือเกาหลียุคก่อนสมัยใหม่ รวมถึงงานศิลปะและภาพพิมพ์ตะวันตกที่สำคัญมากมาย พิพิธภัณฑ์ยังมีคอลเล็กชั่นเครื่องแก้วเปอร์เซียโบราณมากมาย พร้อมด้วยภาพวาดและศิลปะประยุกต์ของจีน เกาหลีและญี่ปุ่น

11. ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)

เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น ฟุกุโอกะก็มีหอคอยที่โดดเด่นซึ่งให้ทัศนียภาพอันยอดเยี่ยมของพื้นที่โดยรอบแก่ผู้มาเยือน ฟุกุโอกะทาวเวอร์สร้างขึ้นในปี 1989 และมองเห็นอ่าวฮากาตะ สูง 234 เมตร และถือเป็นหอคอยชายทะเลที่สูงที่สุดในประเทศ

12. Fukuoka’s Food Markets

ตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือตลาดยานางิบาชิ หรือที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า “ครัวฮากาตะ” เนื่องจากมีผู้ขายอาหารและแผงขายผักสดมากมาย

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวคิวชู สามารถเริ่มต้นได้ที่ฟุกุโอกะ บินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงสนามบินฟุกุโอกะ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง จากนั้นค่อยท่องเที่ยวต่อไปยังสถานที่เที่ยวยังจังหวัดอื่นๆ ในเกาะคิวชู เช่น ซากา, คุมาโมะโตะ, โออิตะ, มิยะซะกิ และคะโงะชิมะ